...::: ก้าวที่สอง...หน้าที่พี่เลี้ยง ของคณะภคินีเซนต์ปอล เดอ ชาร์ตร :::...
ณ ดินแดนแห่งสยามประเทศ


...::: คุณพ่ออาลอยส์ อัลฟองส์ ดอนต์ (Aloysius Alfonsus D’hont) หรือคุณพ่อ ปีโอ ดอนต์ :::...

 

คุณพ่ออาลอยส์ อัลฟองส์ ดอนต์ (Aloysius Alfonsus D’hont) หรือเรียกว่า "คุณพ่อปีโอ ดอนต์" เพื่อให้ง่ายต่อการเรียกสำหรับสัตบุรุษ

เวลานั้นคุณพ่อเป็นผู้รักษาการผู้แทนพระสันตะปาปาประจำกรุงสยาม เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1898 ท่านเป็นผู้เขียนถึงแมร์กังดีด เนื่องจากท่านได้เห็นพวกเซอร์ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ จึงรู้สึกชื่นชมถึงการอุทิศตน ความเสียสละ และการเอาจริงเอาจังในการทำงานมาก จึงเขียนขอพวกเซอร์มาอีกเพื่อกิจการที่ท่านรักเป็นพิเศษ...

"เรื่องเป็นอย่างนี้ ที่กรุงสยามเรามีกลุ่มนักบวชหญิงพื้นเมืองอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งอุทิศตนทำงานของมิสซัง
นักบวชหญิงเหล่านี้ติดตามธรรมทูตไปยังแหล่งที่ไกลที่สุด
ใช้ชีวิตเหมือนคนในถิ่นนั้น และรับใช้เราในเรื่องสำคัญ ๆ เช่น ดูแลสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
ทำโรงเรียน และสอนสตรีซึ่งปรารถนาจะกลับใจ
ข้าพเจ้าปรารถนาจะสร้างนักบวชหญิงที่แท้จริงขึ้นมา จึงใคร่ขอเซอร์สองท่านในคณะฯ
เพื่อมาอำนวยการคอนแวนต์นักบวชหญิงพื้นเมืองด้วยวัตถุประสงค์ ดังที่ได้ชี้แจงไว้แล้ว"


...::: เซอร์เซราฟิน เดอ มารี ลูเตนบาเช่อร์ :::...

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1900 เซอร์ฮังเรียต และเซอร์ยุสติน ได้มาถึงสามเสน ในวันที่ 9 กรกฎาคม  ค.ศ.1900
เพื่อดูแลเรื่องการอบรมเด็กสาวที่ปรารถนาจะช่วยพระสงฆ์ธรรมทูต ตามสังฆตำบลให้เป็นนักบวชหญิง
โดยในปี ค.ศ.1902 เซอร์เซราฟิน เดอ มารี ได้มาอยู่ที่อารามสามเสน
และในปีต่อมา ค.ศ. 1903 ได้ทำหน้าที่อธิการิณีแทนเซอร์ฮังเรียต ซึ่งต้องกลับไปไซ่ง่อน


...::: อารามแห่งพระหฤทัยของพระมหาเยซูคริสโต - อารามสามเสน :::...

เซอร์เซราฟิน ได้รับแต่งตั้งจากพระสังฆราช เรอเน แปรอส  ให้เป็นอธิการของคณะดังกล่าว รวม 2 สมัย  คือ            

  • สมัยที่ 1  ปี 1924 - 1942
  • สมัยที่ 2  ปี 1948 - 1951

ในปี ค.ศ. 1931 อารามที่สามเสน ได้ถูกย้ายไปอยู่ที่คลองเตย คณะเซอร์ และซิสเตอร์ทั้งหมดต้องย้ายไป แม้จะยังไม่เสร็จก็ตาม
อารามแห่งใหม่นี้ ได้ทำพิธีเสกเมื่อ วันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 1932 โดย ฯพณฯ พระสังฆราชเรอเน แปร์รอส

เซอร์เซราฟิน ได้ดำเนินชีวิตท่ามกลางคณะซิสเตอร์ที่ท่านรักมากที่สุด ตลอดระยะเวลา 50 ปี
พระเป็นเจ้าทรงเรียกท่านกลับไปพักผ่อนตลอดนิรันดร์
ในปี ค.ศ. 1952 ร่างของเซอร์เซราฟิน ยังอยู่กับคณะซิสเตอร์ ที่ท่านปรารถนาจะพักผ่อนด้วยชั่วนิรันดร์... ในสถานที่ซึ่ง...บรรดาคณะซิสเตอร์ที่ท่านรักมากเท่าชีวิตพักผ่อนตลอดกาล ณ สุสานของอารามพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯ คลองเตย กรุงเทพมหานคร


...::: เซอร์เซราฟิน และ คณะเซอร์เซนต์ปอลฯ กับซิสเตอร์พระหฤทัยในยุคแรก ๆ :::...

นอกจากเซอร์เซราฟิน แล้ว คณะฯ ยังได้ส่งเซอร์ท่านอื่น ๆ เพื่อดำเนินชีวิต อยู่ร่วมกับซิสเตอร์ทั้งหลาย โดยเฉพาะ
เซอร์มารี เต็ก ที่นับว่าเป็นอีกผู้หนึ่งที่มีฝืมือด้านการตัดเย็บที่เป็นเลิศ และทำให้สิ่งเหล่านี้สืบสาน และตกทอดมาจวบจนปัจจุบัน
กับ คณะภคินีพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯ

มิใช่เพียงคณะรักกางเขนที่สามเสนเท่านั้น ที่คณะเซอร์เซนต์ปอลฯ ได้ไปอยู่ท่ามกลางพวกเขา และทำหน้าที่เฉกเช่นพี่เลี้ยง
ที่คอยช่วยเหลือ ประคับประคอง ชี้แนะ และมอบแบบอย่างต่าง ๆ ให้ด้วยความรัก ยังมีคณะรักกางเขนที่หนองแสง
คณะรักกางเขนที่อุบล และคณะรักกางเขนที่บางช้างด้วยเช่นกัน


...::: เซอร์มาร์ติน – โจเซฟ กับคณะรักกางเขน ที่บางช้าง :::...
โดยคณะเซอร์ที่ได้ทำงานที่นี้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1913 - 1925


...::: พระสังฆราชมารี-โยเซฟ กืออาส :::...

สำหรับที่หนองแสงและอุบลนั้น (ก่อนยังเป็นมิสซังลาว โดยแยกออกจากมิสซังสยามเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ.1899)
โดยพระสังฆราชมารี-โยเซฟ กืออาส แห่งมิสซังลาวในเวลานั้น ได้เขียนจดหมายขอคณะเซอร์ จากแมร์กังดีด โดยแมร์กังดีด ได้ส่งเซอร์ทั้งหมดมา 8 ท่าน มาในปี ค.ศ. 1904 โดยให้อยู่ที่หนองแสง 4 ท่าน และอุบล 4 ท่าน :


...::: คณะเซอร์กลุ่มแรก ๆ ที่ทำงานที่หนองแสง :::...
โดยคณะเซอร์ที่ได้ทำงานที่นี้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1904 - 1940


...::: คณะเซอร์ และคณะซิสเตอร์รักกางเขน กลุ่มแรก ๆ ที่อุบล :::...
โดยคณะเซอร์ที่ได้ทำงานที่นี้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1904 - 1942

ที่หนองแสงคณะเซอร์ได้อยู่ที่นี่ ถึงปี ค.ศ. 1940 และที่อุบล ถึงปี ค.ศ. 1942

และนี่นับเป็นก้าวที่สองของคณะเซอร์เซนต์ปอล เดอ ชาร์ตรในประเทศไทย